พ่อเยาวชนหญิง 1 ในผู้เสียหาย ถูกไอ้คลั่งเอาคัตเตอร์กรีดในห้าง เย็บ 10 เข็ม เผยสุดงง มาเที่ยวห้างหรู แต่ไม่ปลอดภัย
จากกรณีวานนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ไล่แทงคนที่มาเดินเที่ยวภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านราชประสงค์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้หญิงทั้งสองราย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งหลบหนีไป และถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. หนึ่งในผู้เสียหายเป็นเยาวชนหญิง อายุยังไม่ถึง 20 ปี พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมายัง สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
โดย พ่อของผู้บาดเจ็บ ได้ให้ข้อมูลว่า ครอบครัวของตนเองเดินทางมาเที่ยวห้าง มากัน 3 คน พ่อแม่ลูก ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในห้าง ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว โดยคนร้ายมาถึงก็ก่อเหตุทันทีโดยใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่ท้ายทอยของลูกสาวเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ต้องเย็บถึง 10 เข็ม
ซึ่งตอนนั้นตกใจมาก และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในห้างหรูใจกลางเมือง ตอนนี้ครอบครัวตกใจผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่แน่ชัดว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของห้างหรูเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่คิดแจ้งความกับใคร ขอดูแลความรู้สึกของลูกก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ
ทางด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้าง ก็ได้เดินทางมายัง สน.ปทุมวัน เพื่อชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยหลังเกิดเหตุพนักงานของห้างสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ภายใน 5 นาที และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการ ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าการตรวจวัตถุอันตรายสามารถเข้ามาในห้างได้นั้น
เบื้องต้น ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้าง แจ้งว่า อาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดคัตเตอร์ เครื่องสแกนจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หากเป็นมีดทำครัว หรืออาวุธมีดชนิดอื่นจะตรวจสอบได้ทันที ซึ่งกรณีนี้ทางห้างจะมีการสอบถามกับผู้ดูแลระบบดูแลรักษาความปลอดภัยของห้างอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปรับปรุง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก ส่วนผู้บาดเจ็บทางห้างจะมีการเยียวยาและรับผิดชอบต่อไป
ทั้งนี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ชายรายนี้ในอดีตเคยทำงานเป็นช่างไฟฟ้าโรงงานผลิตถุงเก็บผ้านวม กระเป๋าเก็บผ้านวม แต่ปัจจุบันตกงาน และกลายเป็นคนไร้บ้าน อาศัยนอนตามสะพานลอยแถวๆ สนามหลวง ซึ่งในปัจจุบันมีบุคคลในลักษณะนี้กระจายอยู่ในพื้นที่ กทม.หลายจุด หากมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลรับผิดชอบ เพื่อทำประวัติและดูแลบุคคลเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวอีก
